กันซึมโพลียูรีเทน
PU (Polyurethane) Waterproofing
กันซึมโพลียูรีเทน กันซึมพียู เป็นระบบกันซึมดาดฟ้าที่ให้อายุการใช้งานยาวนาน
ลักษณะเฉพาะ
กันซึมพียูเป็นกันซึมประเภทยางสังเคราะห์โพลียูรีเทนชนิดสารเดี่ยว (One Component) เป็นของเหลว มีความคงทนต่ออุณหภูมิสูง และสามารถทำหน้าทีเป็นฉนวนลดความร้อน ยึดเกาะกับพื้นผิวคอนกรีตได้ดี เคลือบบนคอนกรีต 3 ลำดับชั้นที่ความหนารวม 2-3 มม. เป็นเสมือนยางคลุมผิวคอนกรีต ไร้รอยต่อ มีความยืดหยุ่นตัวสูง 5-6 เท่าตัว
ทนทานต่อแรงดึงและแรงฉีกขาด (Elongation and Tear Strength) ได้ดีกว่าวัสดุประเภทอื่น ทำให้ช่วยแก้ปัญหาการรั่วซึม ลดรอยแตกร้าวของพื้นคอนกรีตได้ดี ลักษณะพื้นผิวสวยงาม ทำความสะอาดและซ่อมแซมได้ง่าย สามารถซ่อมแซมได้เฉพาะจุด ทนต่อสภาพอากาศทั่วไป หากเลือกชนิดฟิล์มแข็ง จะใช้เป็นพื้นสนามกีฬาอเนกประสงค์ได้ อายุการใช้งานกว่า 10 ปี
ลำดับชั้นวัสดุกันซึม
Layer | Product Name | Consumption |
---|---|---|
ชั้บที่ 1: ชั้นรองพื้น (Primer) หนาไม่น้อยกว่า 0.25 มม. | T-44 | 0.2 - 0.3 kg/m2 |
ชั้บที่ 2: ชั้นกันซึม เป็นโพลียูรีเทนชนิดสารเดี่ยว (One Component) หนาไม่น้อยกว่า 2.0 มม. | K-One-60 | 2.6 - 3.9 kg/m2 |
ชั้บที่ 3: ชั้นทับหน้า (Top Coat) หนาไม่น้อยกว่า 0.25 มม. สีเขียวหรือเทา | TC-60A/KU-60G (1:8) | 0.2 - 0.3 kg/m2 |
การปรับแอ่งน้ำขัง
ขั้นตอนการติดตั้งระบบกันซึมดาดฟ้าโพลียูรีเทน
- กรณีที่มีแอ่ง ต้องซ่อมแซมแอ่งและปรับระดับ ด้วย Non Shrink Concrete และทิ้งให้แห้งในเวลาไม่น้อยกว่า 1 วัน ห้ามใช้คอนกรีตก่อสร้างแบบทั่วไป และสร้างความลาดเอียงของพื้น ให้น้ำไหลลงรางท่อรับน้ำ (Roof Floor) เพื่อการระบายน้ำเร็วที่สุด เมื่อปรับระดับเรียบแล้ว ปล่อยให้แข็งตัวก่อนแล้ว โดยใช้เวลาประมาณ 7-10 ชั่วโมงจึงสามารถทำงานต่อได้
- ฉีดน้ำ ตรวจวัดความเรียบของพื้นที่ ด้วยระดับน้ำ ตรวจแอ่ง ซ่อมใหม่ หากจำเป็น
- ลงชั้นรองพื้น (Primer T-44) ปรับให้มีความหนาไม่น้อยกว่า 0.25 ม.ม. หรือ 0.33 กก/ตร.ม โดยใช้ลูกกลิ้งชุบน้ำยารองพื้นฉาบให้ทั่วพื้นผิว บางๆ ทิ้งไว้อย่างน้อย 3-5 ชั่วโมง จึงทำงานในชั้นถัดไป
– หากอากาศชื้นเย็น การแห้งตัวจะช้าลง (6-7 ชม.)
– หากอากาศร้อนมีแดด การแห้งตัวจะเร็วขึ้น (3-4 ชม.) หรือตรวจดูด้วยการแตะจับที่ผิวงาน
ลงชั้นกันซึม ปั่นน้ำยากันซึมระบบโพลียูรีเทนชนิดสารเดี่ยว 1 Component (K-ONE 60) โดยไม่มีการผสมสารอื่นใด ให้กระจายเข้ากันดี เทปาดลงพื้นแล้วคราดด้วย Rack หรือด้วยระบบ Self-Leveling ปรับให้มีความหนาไม่น้อยกว่า 2.0 มม. (ปริมาณของวัสดุ 2.6 กก./ตร.ม.) ให้ผิวเรียบ ไร้รอยต่อ ปล่อยทิ้งไว้ให้แห้ง ประมาณ 7-15 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ
เคลือบชั้นผิวทับหน้าด้วยระบบโพลียูรีเทนเลือกสีที่ต้องการฟ้า เขียว เทา ชนิด 2 Component (Top Coat TC-60/KU-60) เพื่อป้องกันแสง UV โดยการผสมและปั่นให้เข้ากัน ใช้ลูกกลิ้งชุบน้ำยากลิ้งให้ทั่วพื้นผิวด้วยยระบบ Coating ปรับให้มีความหนาไม่น้อยกว่า 0.25 มม.หรือ 0.33 กก/ตร.ม แล้วทิ้งไว้ให้แห้งอย่างน้อย 24 ชั่วโมง เป็นอันแล้วเสร็จ
คุณสมบัติทางฟิสิกส์
มีผลวิเคราะห์จากห้องปฏิบัติการของกรมวิทยาศาสตร์บริการ ดังนี้
- ไม่พบค่าโลหะหนัก ได้แก่ ตะกั่ว แคดเมี่ยม ปรอท โดยสิ้นเชิง
- ค่าความแข็ง (Hardness) ต้องไม่สูงกว่า 60 Shore A ตามมาตรฐาน ASTM D 2240-05(2010)
- ค่าความต้านแรงดึง (Tensile Strength) ต้องไม่น้อยกว่า 2.50 MPA ตามมาตรฐาน ASTM D 412-06a(2013)
- ค่าความต้านแรงฉีก (Tear Strength) ต้องไม่น้อยกว่า 12.0 N/mm ตามมาตรฐาน D 624-00(2012)
- ค่าความยืดตัวเมื่อขาด (Elongation at Break) ต้องไม่น้อยกว่า 500 % ตามมาตรฐาน ASTM D 412-06a(2013)
- ค่าความทนต่อสภาวะแวดล้อม เป็นเวลา 168 ชม. เกรย์สเกล ระดับ 5 ตามมาตรฐาน ASTM G 154-12a
ไนโช เป็นผู้นำกันซึมชนิดโพลียูรีเทนมาใช้ในประเทศไทยเป็นรายแรกๆ เมื่อกว่า 20 ปีที่แล้ว และได้พิสูจน์จนเป็นที่ยอมรับทั่วไปว่า กันซึมโพลียูรีเทน เป็นกันซึมที่เหมาะสมที่สุด สำหรับสภาพภูมิอากาศและโครงสร้างสิ่งก่อสร้างของอาคารในประเทศไทย
สิ่งก่อสร้างต่างๆในประเทศไทยที่ผ่านมา ได้แก่ อาคาร สะพาน ถนนยกระดับและห้องสุขา ขาดการใส่ใจเรื่องการป้องกันการรั่วซึม ภายหลังการใช้งานไประยะหนึ่ง ก็จะพบปัญหาการซึมของน้ำจากภายนอกเข้าไปภายในสิ่งก่อสร้าง เป็นเหตุให้ทุกวันนี้ อาคารต่างๆ ล้วนอยู่ในสภาวะจำเป็นต้องถูกซ่อมแซม
การให้ความสำคัญของระบบกันซึม ต้องพิจารณาตั้งแต่ในขั้นการออกแบบและก่อสร้าง โดยการเสริมชั้นกันซึมระหว่างการเทคอนกรีตหรือปูกระเบื้อง และไม่ใช่เป็นกันซึมชนิดผสมในเนื้อคอนกรีต กันซึมประเภทแรกที่กำลังกล่าวถึงนี้ เป็นกันซึมโพลียูรีเทนชนิดไม่สัมผัสแสง (Non Exposure Type) เป็นของเหลว ฉาบหรือทาบนพื้นล่างก่อนเทคอนกรีต ให้มีความหนา 2.0 มม ก่อนมีวัสดุอื่นๆเช่นคอนกรีต ฉาบทับ ทำให้โครงสร้างของสิ่งก่อสร้างไม่ถูกความชื้นซึมซับเข้าไปในเนื้อวัสดุของโครงสร้างหลัก เช่น เหล็กและปูน
กันซึมระบบโพลียูรีเทนเป็นกันซึมที่ใช้งานเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว เช่น ดาดฟ้า ผนังอาคาร กันซึมประเภทนี้เป็นการซึมชนิดที่สามารถสัมผัสแสง (Exposure Type) ซึ่งผิววัสดุกันซึมชั้นบนจะมีส่วนผสมของสารป้องกันรังสี UV เพื่อรักษาคุณภาพของเนื้อกันซึม